ถ่ายแบบไหนปกติ ถ่ายแบบไหนไม่ปกติ
💩เมื่อพูดถึงเรื่องขับถ่ายหลายๆคนคงสงสัยว่าใน1วันเราควรถ่ายกี่รอบ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแต่ละคนนั้นมีรอบในการขับถ่ายที่ไม่เท่ากัน บางคนถ่ายวันละ1-2ครั้ง บางคน2-3วันถ่าย 1ครั้งก็มี
🚽ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้จำนวนรอบในการขับถ่ายของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น การทานอาหารมาก หรือน้อย, อายุที่มากขึ้นก็อาจทำให้ถ่ายยากขึ้น, การดื่มน้ำมาก หรือน้อยก็ส่งผลเช่นกัน, หรือแม้ว่ากิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ถ้าคนที่ขยับร่างกายอยู่บ่อยๆ หรือออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่อยู่นิ่งๆ หรือไม่ออกกำลังกาย คนเหล่านี้ก็จะขับถ่ายได้ง่าย และบ่อยกว่าค่ะ
💩และไม่ว่าจะถ่ายกี่รอบต่อวัน สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือการสังเกตตัวเองว่า การถ่ายอุจจาระของเราผิดไปจากเดิมหรือเปล่า เช่น จำนวนรอบที่เปลี่ยนไป หรือลักษณะของอุจจาระที่เปลี่ยนไปก็ตาม
💁♀️วันนี้เราเลยมีวิธีสังเกตอุจจาระแบบง่ายๆที่เราสามารถรู้ได้ว่าอุจจาระแบบไหนคือปกติ, อุจจาระแบบไหนคือไม่ปกติ และอุจจาระแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ทันที
1️. อุจจาระแบบที่เรียกว่าปกติ
คือ อุจจาระที่มีลักษณะนุ่ม ถ่ายง่าย ไม่เจ็บ หรือไม่ต้องเสียเวลาเบ่งมาก รวมไปถึงกลิ่นที่ไม่เหม็นจัด ไม่มีมูกเลือด หรือเลือดสดๆ ปน
2️. อุจจาระแบบที่เรียกว่าไม่ปกติ
คือ อุจจาระที่มีลักษณะการถ่ายเป็นน้ำ ไม่มีกากใยอาหาร หรือมีจำนวนน้อย ปวดท้องแบบบิดๆ หรือมวนท้อง มีอาการแสบ อุจจาระเป็นสีเข้มจัด หรืออ่อนจัด มีกลิ่นเหม็นมาก มีมูกเลือด หรือเลือดสดๆ ปน หรืออุจจาระที่มีลักษณะแข็งกว่าปกติ ลักษณะเหมือนก้อนเล็กๆคล้ายก้อนหิน
3️. อุจจาระแบบที่ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
คือ อุจจาระที่มีสีดำ อุจจาระที่มีเลือดปน อุจจาระเรียวเล็กเป็นแท่งเหมือนปากกา ดินสอ มีอาการปวดท้องขณะถ่ายอย่างมาก และอาเจียนเป็นเลือดร่วมด้วย
✅ดังนั้นจำนวนรอบการถ่ายในแต่ละวันนั้นไม่มีความสำคัญเท่ากับการสังเกตลักษณะของอุจจาระ เราจึงควรหมั่นสังเกต และให้ความสนใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ เพราะมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพของเราได้
留言